Inno insight into China

Alibaba & JD.com ขยายตลาดมาสู่ไทยแล้ว

_____________________________________________________________________

By CHONNIKARN TRIYOS

Updated November 8th, 2017 

E-commerce ยักษ์ใหญ่ของจีนได้ขยายตลาดเข้ามาสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว ! นำโดย Alibaba E- commerce อันดับ 1 ของประเทศ และอันดับสอง JD.com ที่ไล่ตามกันมาติด ๆ 

ชื่อ Alibaba ของ Jack Ma น่าจะคุ้นหูใครหลายคนกันมาซักพักแล้ว ธุรกิจหลัก ๆ ของเขาก็เช่น Alibaba.com, Aliexpress, Taobao.com, Tmall.com และอื่น ๆ อีกมากมาย ย้ำนะคะว่า มากมาย Alibaba จะทำหน้าที่เป็นตลาดที่ผู้ขายและผู้ซื้อมาอยู่บน platform เดียวกัน สินค้าก็จะมีความหลากหลาย โดยเน้นการใช้ Big Data ในการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า เกิดการติดต่อกันระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายอย่างรวดเร็ว มีการชำระเงินมีประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย อย่าง Search Engine และ Alibaba cloud

JD.com คู่แข่งคนสำคัญของ Alibaba ที่นำโดย Richard Liu ก็ไม่น้อยหน้า มีพันธมิตรคนสำคัญอย่าง Tencent, Wechat, Nielsen, Walmart ฯลฯ JD.com จะทำหน้าที่เป็นผู้ขายและจัดส่งสินค้าเอง ซึ่งทำให้การันตีได้ว่าสินค้ามีคุณภาพและราคาเหมาะสม JD.com เน้นระบบขนส่งที่มีประสิทธิภาพ มีคลังสินค้าเพียงพอเพื่อให้สามารถจัดส่งได้ภายในวันที่สั่ง มี Automated Warehouse ที่ทำให้เก็บสินค้าได้มากกว่าปกติถึง 10 เท่า

รวมถึงการเตรียมใช้โดรนในการขนส่งสินค้าในพื้นที่ห่างไกลอีกด้วย

และเมื่อไม่นานมานี้ ทั้งสองได้ขยายตลาดมาสู่ไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

Alibaba ได้เข้ามาลงทุนกับ Lazada E-commerce ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่งในไทย ตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมา กว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ เกิดเป็นปรากฏการณ์ "Alizada" ขึ้นมา โดย Lazada จะนำสินค้าจาก Taobao มาขายในเว็บไซต์ของตัวเอง สินค้าจากจีนเหล่านี้ก็จะดึงดูดคนท้องถิ่นในแต่ละประเทศของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ผ่าน Lazada นั่นเอง

Lazada มีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศสิงคโปร์ และดำเนินธุรกิจในประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และไทย ซึ่งจะเห็นได้ว่าเป็นประเทศที่มีประชากรจำนวนมาก เป็นตลาดที่น่าเข้ามาลงทุนเป็นอย่างยิ่ง

JD.com ก็ไม่รอช้า เข้ามาลงทุนกับ Central Group เมื่อเดือนกันยายน 2017 ที่ผ่านมานี้เอง ด้วยเม็ดเงินกว่า 500 ล้านเหรียญ JD.com จะเข้ามาสนับสนุนในด้านเทคโนโลยี และระบบขนส่ง เซ็นทรัลเองก็จะให้ความร่วมมือในด้านเครือข่ายร้านค้า แบรนด์ และฐานข้อมูลลูกค้าที่เป็นจุดแข็งของเครือเซ็นทรัลเลยก็ว่าได้ อีกทั้งประเทศไทยยังตั้งอยู่ตรงกลางของภูมิภาค จึงสามารถเป็นจุดกระจายสินค้าไปสู่ประเทศใกล้เคียงได้อีกด้วย

เอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังกลายเป็นสมรภูมิใหม่สำหรับ บริษัท E-commerce ต่าง ๆ ที่หวังจะขยายตลาดสู่คนกว่า 600 ล้านคน ซึ่งขณะนี้มีการดำเนินธุรกิจออนไลน์ไม่มากนัก จึงไม่แปลกที่ Alibaba กับ JD.com จะเห็นโอกาสในการขยายตลาดมาสู่ภูมิภาคนี้

E-commerce ทั้งสองเจ้านี้ จะงัดกลยุทธ์อะไรมาสู้กันอีก ต้องรอติดตาม 

Sources: https://www.reuters.com, https://thanawat.co, https://thestandard.co

By Bangkok Innovation House Team