Inno aday




หลังจากอูเบอร์รวมกับแกร็บแล้ว 


คงไม่แคล้วต้องเกิดการเปลี่ยนแปลง 

_____________________________________________________________________

By CHONNIKARN TRIYOS

Updated April 4th, 2018 

เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา อูเบอร์ประกาศขายธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้กับแกร็บ ซึ่งได้แก่อูเบอร์ในประเทศไทย สิงคโปร์ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย พม่า และกัมพูชา โดยเป้าหมายของแกร็บคือการก้าวสู่การเป็นที่หนึ่งของแพล็ตฟอร์มบนมือถือแบบ O2O (online-to-offline) ในภูมิภาค


บริการทุกอย่างของอูเบอร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะถูกส่งต่อมายังแกร็บ UberEats จะถูกรวมเข้ากับ GrabFood โดยแกร็บก็มีเป้าหมายที่จะเป็นบริการส่งอาหารเดลิเวอรีอันดับหนึ่งของภูมิภาคเช่นกัน UberEats จะให้บริการถึงสิ้นเดือนพฤษภาคมเท่านั้น


แกร็บจะร่วมมือกับรัฐบาลของหลาย ๆ ประเทศ ในการประสานงานกับผู้ให้บริการรถโดยสารสาธารณะต่าง ๆ เพื่อสร้างประสบการณ์การโดยสารที่หลากหลายและลงตัวยิ่งขึ้น บริการใหม่จากแกร็บก็จะมี GrabCycle บริการจักรยาน และ GrabShuttle Plus บริการรถรับส่งตามเส้นทางที่ต้องการ


สำหรับผู้ใช้ชาวไทย หลังจากวันที่ 8 เมษายนนี้ เราจะไม่สามารถใช้อูเบอร์ได้อีกต่อไป ผู้ใช้อูเบอร์จะต้องโหลดแอปฯ แกร็บ และสร้างบัญชีผู้ใช้ใหม่ขึ้นมา แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าบัญชีในอูเบอร์ของคุณจะถูกลบไป เพียงแต่จะใช้ได้ในประเทศอื่นที่รองรับอูเบอร์นอกเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เท่านั้น


ราคา ค่าบริการแกร็บจะยังคงเท่าเดิม ไม่มีการปรับเพิ่มหลังจากซื้ออูเบอร์เข้ามา ส่วนการบริการก็จะยิ่งดีขึ้น จากการมีผู้ขับมากขึ้น เวลาในการรอรถก็จะน้อยลง


แต่การรวมตัวกันของ 2 เจ้าใหญ่อย่างแกร็บและอูเบอร์ ก็ทำให้รัฐบาลไทยเกิดความกังวลเรื่องการปรับราคาให้สูงขึ้นในอนาคต สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทยเสนอว่า กระทรวงคมนาคมควรดำเนินการเพื่อปกป้องผู้บริโภค โดยการให้บริการนี้ถูกต้องตามกฎหมาย นอกจากนั้น คนขับรถที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวเพื่อให้บริการ ควรจะต้องจ่ายภาษีพิเศษเพื่อขอรับใบอนุญาต และต้องมีสติกเกอร์พิเศษแปะไว้ที่รถ เช่นเดียวกับที่ทำในสิงคโปร์ 


แต่ช้าก่อน แกร็บอาจจะมีคู่แข่งในไทยอีกเจ้าหนึ่งก็เป็นได้ เพราะเมื่อไม่กี่วันมานี้ LINE เพิ่งเปิดตัวบริการ LINE TAXI อย่างเป็นทางการ โดยสามารถเรียกผ่านแอปฯ LINE MAN ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ใช้ง่ายคล้าย GrabTaxi และจ่ายง่ายผ่าน Rabbit LINE Pay แต่จะเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวสำหรับแกร็บหรือไม่ โปรดติดตามตอนต่อไป


ที่มา: Grab, Bangkokpost, Thaitech, Beartai


By Bangkok Innovation House Team