มีนานี้ ใครไม่มีรถก็ไม่เป็นไร เพราะ Uber ได้เปิดตัวบริการใหม่ Uber Health จากชื่อก็น่าจะเห็นแล้วว่า Sharing Business อย่าง Uber ได้หันมาให้ความสนใจด้าน Health Care แล้ว
Uber Health จะร่วมกับผู้ให้บริการด้านสุขภาพต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาล สถานบำบัด ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ หรือ ศูนย์บำบัดทางกายภาพ ที่จะเป็นผู้จัดตารางนัดหมายรถให้กับผู้ป่วยและดูแลค่าใช้จ่ายในการโดยสาร เพื่อเป็นการช่วยผู้ป่วยที่ต้องการรถในการไปหาหมอ
รู้หรือไม่ว่า ทุก ๆ ปี ชาวอเมริกันกว่า 3.6 ล้านคนผิดนัดหมอเพราะไม่มีรถ และการผิดนัดหมอก็ทำให้ระบบทางการแพทย์เสียหายกว่า 150 ล้านเหรียญสหรัฐฯ Uber จึงอยากที่จะแก้ปัญหานี้
Uber Health ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้สถานพยาบาลต่าง ๆ สามารถจองรถให้กับลูกค้าได้โดยใช้หน้าแดชบอร์ดเว็บแบบง่าย ๆ เพียงป้อนชื่อลูกค้า เบอร์โทรศัพท์ และสถานที่รับ - ส่ง จากนั้นก็เลือกประเภทยานพาหนะ แล้วลูกค้าก็จะได้รับข้อความแจ้งเตือนว่าได้มีการจอง Uber ให้แล้ว ซึ่งจะมีการลิงก์ไปยังแผนที่ในเว็บ ที่ถ่ายทอดสดให้เห็นว่าคนขับอยู่ที่ไหนแล้ว
การจองรถให้ลูกค้าผ่านแดชบอร์ดกลาง ทำให้ผู้โดยสารไม่จำเป็นต้องมีแอป Uber หรือแม้กระทั่งสมาร์ทโฟน เพราะนอกจากการแจ้งเตือนทาง SMS แล้ว คุณหมอยังสามารถใช้วิธีดั้งเดิมอย่างการพิมพ์ใบนัดหมายออกมาบนกระดาษได้อีกด้วย เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงบริการนี้ได้
Uber Health เป็นบริการเกี่ยวกับ Health Care ที่ใหญ่ที่สุดของ Uber ณ ตอนนี้ แต่ก่อนหน้านี้ก็ Uber ได้สนับสนุนการบริการสุขภาพมาบ้างแล้ว เช่น การให้บริการรถฟรีสำหรับการตรวจเช็คมะเร็งเต้านมในสหรัฐอเมริกา และตรวจโรคเบาหวานและไทรอยด์ในประเทศอินเดีย
ผู้ที่จะมาขับรถรับส่งผู้ป่วยสำหรับ Uber Health ก็คือคนขับ Uber ธรรมดาทั่วไป แต่ก็ขึ้นอยู่กับหมอและผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพที่จะประเมินสภาพร่างกายคนไข้ เพื่อที่จะทราบได้ว่ารถยนต์ของ Uber นั้นเหมาะที่จะใช้รับส่งคนไข้รายนั้น ๆ หรือไม่ นอกจากนี้หมอและผู้ให้บริการยังเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะใช้บริการ Uber Health ไปกับใครอย่างไรบ้าง เช่น การรับส่งคนไข้รายได้ต่ำ หรือการพาคนดูแลผู้ป่วยไปยังบ้านของผู้ป่วย
กว่า 9 เดือนที่ผ่านมาที่ได้ทดสอบ Uber Health beta ไปแล้วนั้น จนถึงตอนนี้ มีผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพมากกว่า 100 แห่งเข้าร่วมเป็นที่เรียบร้อย
การที่สถานพยาบาลต่าง ๆ เป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการโดยสารของผู้ป่วย นอกจากจะช่วยให้ผู้ป่วยมาตามเวลาที่นัดหมายและได้เข้ารับการดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอแล้ว ยังช่วยให้ผู้ป่วยมีสุขภาพที่ดีขึ้นตามไปด้วยซึ่งจะช่วยลดการเข้าห้องฉุกเฉินที่ไม่จำเป็นได้
สำหรับเมืองไทย ที่กำลังก้าวเข้าสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า น่าจะได้ใช้ประโยชน์จากบริการนี้เป็นอย่างมาก แต่ก็ต้องลุ้นกันต่อไปว่าบริการ Uber Health จะเข้ามาเมืองไทยหรือไม่ เพราะจนถึงปี 2561 นี้ Uber ในไทยก็ยังไม่มีกฎหมายใดออกมารองรับ แถมยังเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ. 2522 อีกต่างหาก...
ที่มา: CNN Money, Techcrunch, New York Post, BLT Bangkok
By Bangkok Innovation House Team
